คุณเคยพูดประโยคเหล่านี้กับลูกหรือไม่ คำพูดที่ไม่ควรใช้พูดกับลูก หากพูดออ กไป อาจจะมีผลต่อพัฒนาการของลูก ในช่วงวัยต่างๆได้ ฉะนั้น มาดูกันว่า ประโยคเหล่านั้น มีอะไรบ้าง ที่ไม่ควรพูด มันอาจจะส่งกระทบมากกว่าที่คิดไว้ มาดูกันว่า ประโยคที่ไม่ควรพูด มีอะไรบ้างจะได้เก็บไปสอนลูกๆ
1.ทำไมกันทำไมน่ารำคาญเช่นนี้
คำนี้จะบั่นทอนความรู้สึก และความเชื่อมั่นของลูกได้ อาจจะทำให้เขาเริ่ม ไม่มั่นใจว่าตกลงแล้ว พ่อแม่รักเขาอยู่ไหม ความมั่นคงในจิตใจของลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นพื้นฐานต่อไปในอนาคตด้วยนะ
2.เดี๋ยวติเลย
ผู้ปกครองหล า ยๆ คนคิดว่า การลงไม้ลงมือ มันจะทำให้ลูกเชื่อฟังได้ แต่หารู้ไม่ การติ่เขา การลงโ ท ษเขาแบบหนักๆ อาจไม่ได้ส่งผลดี แต่กลับใช้ได้ผล แค่ในช่วงแรกๆเท่านั้น แล้วสุดท้ายก็จะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
3.ต่อว่าลูกแบบนั้นแบบนี้
เพราะการบอ กว่า เขาเป็นคนซุ่มซ่ามนิสัยไม่ดีนั้น มันไม่ได้ช่วยให้เขามีความมั่นใจ หรือรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้นเลย แม้ว่าคุณจะไม่ได้พูดกับเขาโดยตรง แต่สุดท้ายแล้ว ลูกคุณก็จะเชื่อว่าเขาเป็นคนที่แย่เหมือนที่คุณแม่พูดจริงๆนั่นแหละ
4.หยุดกวนซะทีได้ไหม
บางครั้งคุณแม่อาจต้องการเวลาส่วนตัวบ้าง แต่หากคุณแม่บอ กลูกว่า อ ย่ ามายุ่งอยู่บ่อยๆ ลูกคุณอาจจะไม่คุยกับคุณแม่อีกต่อไปเลยก็ได้นะ ยังไงลองอธิบายให้ลูกฟัง ถึงเหตุผลดีๆ อ ย่ างเช่นคุณแม่ขอเวลา ทำธุระส่วนตัวสัก 2-3 นาทีได้ไหม งี้แล้วแม่จะคุยกับห นูอีกที
5.หุบปากและก็อยู่เงียบๆไปซะ
เ ด็ กในวัยที่กำลังหัดพูด มักจะพูดตลอ ดเวลา อาจจะพูดผิ ดถูกบ้าง หากเขาพูดจา ไม่เหมาะสม คุณแม่ควรจะสอนเขาดีๆ แทนที่จะบอ กว่าให้หุบปากแบบนั้นน่ะ ลูกจะเก็บกด ไม่กล้าแสดงออ ก และอาจมีพัฒนาการทางการพูดที่ช้าลงด้วย
6.ทำแบบนี้เดี๋ยวพ่อแม่ไม่รักนะ
คำว่าไม่รัก จะมีผลกระทบต่อความรู้สึกภายในใจลูกได้เป็นอ ย่ างดี แม้จะคิดว่า ยังไงลูกก็รู้อยู่แล้วว่า คุณแม่รักเขา แต่ลึดๆในความเป็นจริงนั้น คำพูดนี้บั่นทอน ความรู้สึกเขามากเลยจริงๆ
7.เป็นลูกผู้ชายหน่อยสิ
คำนี้ก็ไม่ควรที่จะใช้กับลูกนอ กจาก จะปิดกั้นพัฒนาการของเขาแล้ว ยังทำให้ลูกสับสน มากกว่าเดิม ว่าการเป็นลูกผู้ชาย ต้องทำยังไง หรือยังไงก็ต าม คุณแม่ควรอธิบายเพิ่มว่า ลูกควรทำอะไรบ้าง และทำเพราะอะไรเขาจะได้รู้
8.ล้อเลียนข้ อด้อย
เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับคุณพ่อคุณแม่เลยล่ะ ไม่ควรที่ล้อเลียน หรือเรียกลูกด้วยชื่ออื่นๆเลย เพราะมันอาจทำให้ลูกสูญเ สี ย ความมั่นใจเช่นอ้วนแห้งสิวรัยงี้
9.เป็นเ ด็ กขิ้แพ้
การที่เรียกลูกว่าเ ด็ กขิ้แพ้ จะทำให้ลูกคุณอาจรู้สึกละอายใจ คุณแม่ควรฝึกให้ลูก รู้จักการฝึกฝนฝึกความพย าย ามจะดีกว่า การที่คุณแม่พูดทำร้ ายจิตใจลูก แทนที่ลูกจะมีความพย าย ามขึ้น กลับยิ่งทำให้ลูกมีพฤติกร รมที่ถดถอย หรืออาจข า ดความเชื่อมั่น และไม่กล้าที่จะตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเองทั้งนั้น
10.รอให้พ่อรู้ก่อนเถอะ
เพราะบางทีคุณแม่ มักจะชอบขู่เช่นเดี๋ยว รอให้พ่อรู้ก่อนเถอะ และปัญหาก็คือ เมื่อลูกโตขึ้น เขาก็จะรู้ว่า คุณแม่ก็แค่ขู่แหละ ไม่ทำอะไรเขาหรอ ก มันก็อาจกล า ยเป็นว่า ไม่ฟังคุณแม่
11.ชอบสั่งให้ทำ
แม้หน้าที่ของคุณแม่คือควรสอนให้ลูก เชื่อฟังในสิ่งที่เราพูด แต่ยังไง ก็ไม่ควรที่จะพูด ลอยๆออ กมาโดยไม่มีเหตุมีผล และไม่อธิบายอะไรเพิ่ม เพราะลูกจะมีความเคยชินว่าทำต ามไปวันๆ
12.ทำไมไม่เหมือนลูกคนอื่นเขาเลยนะ
แม่ไม่ควรที่เอาลูกตัวเอง ไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เราควรเข้าใจว่าเ ด็ กแต่ละคน ไม่เหมือนกัน พย าย ามทำให้ลูกรู้ว่ าพวกเขาพิเศษกันคนละแบบจะดีกว่านะ
13.แม่ตัดห นูแล้วนะ
เมื่อคุณแม่รู้สึกโ ก ร ธมากๆ อาจเผลอพูดกับลูกไปว่า แม่ตัดแล้ว แต่ในความเป็นจริง ลูกยังต้องพึ่งพิงอาศัย อาหารความรักจากคุณแม่คุณพ่ออยู่ไง ฉะนั้นหากพูดไปแล้ว อาจเป็นการทำร้ ายจิตใจความรู้สึกของลูก อาจจะทำล า ยความสัมพันธ์ก็เป็นได้
14.ไม่น่าเชื่อว่าลูกจะคิดเรื่องไร้สาระอ ย่ างนี้
ตอนที่ลูกเดินกระแทกเท้า หรือเดินชนประตูแบบไม่ได้ตั้งใจนั้น เขาอาจมีเรื่องกังวลใจอยู่ เมื่อคุณแม่ไปต่อว่า ลูกอาจจะรู้สึกเหมือนว่า ถูกปฏิเสธดูเป็นคนไร้ค่า ทั้งยังต้องการแยกตัวออ กห่างจากพ่อแม่มากขึ้น ฉะนั้นควรรอจังหวะที่เหมาะสมก่อน และค่อยพูดว่าแม่ อาจเห็นเรื่องนี้
ในมุมมองที่ต่างออ กไปไหน ลองเล่าเรื่องของห นูใหม่อีกครั้ง แล้วเรามาหาข้ อสรุปด้วยกันอีกที แบบนี้ก็จะดีขึ้นกว่าเดิม เห็นไหมว่าบางคำพูด มันช่างอ่อนไหว ก่อนจะพูดอะไรนั้น ก็ขอให้ได้คิดดีๆก่อนที่จะพูดมันออ กมา ก็เพื่อความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างครอบครัวของเรา
ที่มา kiadtikun yakrookaset