สิ่งที่ทำให้เงินไม่พอใช้ ชักหน้าไม่ถึงหลัง

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิดการใช้ชีวิตกับบทความ สิ่งที่ทำให้เงินไม่พอใช้ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ไปดูกันว่ามีสิ่งใดบ้างที่ทำให้เราไม่สามารถใช้เงินได้ถึงสิ้นเดือน

การกระทำของตัวเรานั้น ย่อมส่ งผลในการดำเนินชีวิต คนจำนวน มากได้มีปัญหาเกี่ยวกับในเรื่องของเงินเงินที่ไม่พอใช้ ไม่มีใช้จ่ายหรือมีเข้ามาก็มักจะมีเหตุจำเป็นที่ทำให้มันหมดไป สำหรับคนที่มีปัญหาในเรื่องของเงินทองไม่พอใช้อยู่บ่อยๆนั้น มาจากในอ ดีตช าติที่ทำทาน มาไม่ครบ นั่นหมายถึงว่า เวลาที่เราจะทำทานนั้น ยังคงมีจิตใจที่ยังคงเสียดายทานเหล่านั้น ที่จะทำไป อย่ างเช่นว่า ตั้งใจจะทำทานด้วยการถวายอาหารคาวหวาน 4 อย่ าง ผลไม้ 5 อย่ าง แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆแล้วกลับรู้สึกเสียดาย ทำไม่ลดปริมาณลง

และอืกห นึ่ งสาเหตุนั่นก็คือวัตถุทาน ที่ได้มาไม่บริสุทธิ์ นั่นก็คืออาจจะได้มาด้วยเงินที่ไม่ บริสุทธิ์ ด้วยเหตุผลนี้เอง บุญกุศลที่เราได้เคยทำได้เคยสร้างมานั้นจึงมีลักษณะแบบครึ่งๆกลางๆ เดี๋ยวมีเดี๋ยวก็ไม่มี ทำให้เงินไม่พอจ่าย เงินข า ดมือ หมุนไม่ทัน จะไปหยิบยืมใครก็ย ากลำ บาก ไม่มีคนรอบข้างคอยช่วย เหลือ เป็นในเรื่องของก ร ร มเ ว รที่เคยได้ทำมา

ส่วนเหตุจากก ร ร ม ใหม่ ในภพช าติปัจจุบัน

การที่เราไม่มีเงินใช้ หรือในเรื่องของการเงินลำ บากอยู่เสมอ นั่นไม่ใช่ว่าเกิดจากก ร ร มเก่าเพียงอย่ างเดียวเท่านั้น เราจะต้องมาดูสิ่งที่เป็นเหตุที่ทำให้เกิดเป็นผลแบบนี้ สิ่งที่ทำให้เราไม่พอ หรือมีแล้วก็อย า กจะมีเพิ่ม อย่ างเช่น การใช้โทรศัพท์มือถือ เปลี่ยน มือถือในทุกๆ 3 เดือน 6 เดือน เวลามีโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่เข้ามาก็อย า กที่จะได้ คนเงินเดือนน้อยซื้ อโทรศัพท์มือถือร า ค าแพงๆ จะต้องมานั่งผ่อนในทุกๆเดือน ก็ไม่ใช่เหตุจำเป็นที่เราจะต้องทำแบบนี้ ทั้งที่จริงแล้วโทรศัพท์มือถือนั้นก็เป็นอุปกรณ์เอาไว้สำหรับการติดต่อสื่อส า ร หากเราไม่มีความจำเป็นจริงๆที่จะต้องใช้ฟังก์ชั่นอะไรมากมาย หรือมีร า ค าที่แพงมากมาย เราก็ใช้แบบธรรมดาให้เหมาะสมกับการใช้งานก็เพียงพอแล้ว

ในการแก้ไขปัญหาเรื่องของการเงินนั้น ควรเป็นไปทั้ง 2 ทาง ทั้งในทางโลกและในทางธ ร ร ม เพื่อที่จะเกิด การเสริมแรงบุญ ซึ่งกันและกันที่ดีเข้าไป

สิ่งดีๆที่เราได้ทำ มันก็จะเป็นตัวช่วยในการหนุนให้ชีวิตของเรานั้นดียิ่งขึ้น เพื่อที่จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดียิ่งขึ้น มีความเจริญได้มากยิ่งขึ้น หมั่นทำบุญทำทานก็จะประกอบไปด้วยทาน 3 อย่ าง ที่เกิดบุญมาก เกิดบุญได้อย่ างสม่ำเสมอ นั่นก็คือวัตถุทาน ธรรมทานและอภั ยทาน

วัตถุทาน ทำด้วยความตั้งใจ ทำเท่าที่อย า กทำ ไม่ทำให้ตนเองเดือ ด ร้อน อย่ าไปพะวงว่าสิ่งที่เราให้ไปนั้นคนรับเขาจะไปทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสงฆ์หรือคนธรรมดาทั่วไป เราให้ทานก็อย่ าไปคิดมาก ให้ทำด้วยความเต็มใจ

ธรรมทาน คือ การนำความรู้ที่เรามีไปช่วย เหลือให้ผู้คนรอบข้างให้คนอื่นนั้นเขาได้พ้นทุ ก ข์ ไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือทางธรรม อย่ างเช่น สอนให้เขาปลูกผัก ปลูกต้นไม้ สอนให้เขาทำอาหารเพื่อที่จะไปทำเป็นอาชีพได้ บอ กให้เขาเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง เพื่อที่จะมีความสุขในชีวิต ให้กำลังใจเขา ให้ได้ดำเนินชีวิตต่อไป ร่วมจัดทำหนังสือ ธ ร รมะ หนังสือสวดมนต์ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นธรรมทานทั้งสิ้น ที่ตัวเรานั้นสามารถทำได้ ได้บุญใหญ่ด้วย

อภั ยทาน เราสามารถทำได้และได้บุญใหญ่ที่สุด อภั ยทานนั้นทำได้ด้วยตัวเองไม่ต้องเสียเงินเสียทอง แต่กลับเป็นเรื่องที่ทำได้ย า กที่สุด เพราะต้องขึ้นอยู่กับตัวเราเองทั้งสิ้น การให้อภั ยผู้อื่นไม่คิดโ ก ร ธ เคืองไม่คิด แ ค้ น ใจ ตัวเรานั้นจะต้องหมั่นฝึกฝนตนเองให้ได้มาก หากเราปล่อยวางในส่วนนี้ได้ ตัวเรานั้นจะเกิดเป็นความเบาสบายใจไ ปอยู่ที่ไหนก็มีแต่ความสุข

การสร้างทานใหญ่ด้วยวัตถุทาน ธรรมทาน อภั ยทาน แล้วอุทิศบุญต ามที่บอ กไว้ ทำได้ในทุกวันอย่ างสม่ำเสมอชีวิตของคุณจะเปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือ จะมีแต่สิ่งที่ดีขึ้นเกิดขึ้นในชีวิต

ที่มา sabiangbunpublishing, postsod