5 วิ ธีสอนลูกให้มีภูมิคุ้มกันที่ดี พึ่งพาตัวเองได้

ปัจจุบัน โ ร ค ไม่รู้จักความลำบาก เกิดกับเ ด็ กยุคใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะเ ด็ กที่เติบโตในเมืองที่พ่อแม่ค่อนข้างมีฐานะ ซึ่งส่วนใหญ่มักเลี้ยงให้ลูกสบายเพราะไม่อย ากให้ลูกเจอความลำบากแบบที่ตนเองเคยเจอมาก่อน จึงสนับสนุนลูกด้วยวัตถุ เ งิ นทอง ทำให้เ ด็ กกล า ยเป็นคนข า ดความอ ดทน อ่อนแอ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไม่มีความมั่นคงในจิตใจ แก้ไขปัญหาไม่เป็น และดูแลรับผิ ดชอบตัวเองไม่ได้

ซึ่งส่งผลต่อ การดำเนินชีวิตของเ ด็ กเมื่อโตขึ้นและอาจกล า ยเป็นภาระของสังคม ดังนั้นหากไม่อย ากเป็น พ่อแม่รังแกฉัน คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกได้รู้จักกับความลำบาก ฝึกให้ลูกมีหน้าที่ความรับผิ ดชอบ หรือพย าย ามช่วยเหลือตัวเองได้ตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อที่เขาจะสามารถพัฒนาตนเอง และเรียนรู้การใช้ชีวิตในสังคมได้อ ย่ างปกติสุข

1. อ ย่ าปกป้องลูกมากเกินไป

ควรให้ลูกออ กไปเจอ สิ่งต่าง ๆ ให้เขาได้เรียนรู้โลกภายนอ ก และได้รู้จักการเข้าสังคม เพื่อเปิดโอกาสให้เขาพบเจอผู้คนที่หลากหล า ย จะได้รู้จักแยกแยะความแตกต่างระหว่างคนดี กับคนไม่ดี ฝึกสังเกตและได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิต โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยให้คำแนะนำ

2. อ ย่ ากลัวลูกลำบาก

คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักทำงาน ฝึกให้เขา ช่วยเหลือตัวเอง และได้ทำอะไรเพื่อแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่บ้าง เช่น สอนให้รู้จักเก็บของเล่นด้วยตนเอง สอนให้เก็บจาน สอนให้รู้จักจัดหนังสือเรียน ช่วยงานบ้าน โดยให้ทำกิจก ร ร มต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับวัย เพื่อให้เ ด็ กได้เรียนรู้ความลำบาก รู้จักความพย าย ามในการทำให้งานต่าง ๆ เสร็จลุล่วงไปได้ด้วยตนเอง

3. ฝึกความอ ดทนให้ลูก

ส่งเสริม ให้ลูกได้ทำกิจก ร ร มต่าง ๆ ที่ต้องใช้ความอ ดทน เช่น เดินทางไกล ปลูกต้นไม้ เล่นหมากกระดาน และอื่น ๆ ที่จะช่วยให้เขาได้เรียนรู้การเผชิญอุปสรรคให้เขาได้มีความเข้าใจ ว่าบางสิ่งบางอ ย่ างไม่ได้หามาได้ง่าย ๆ ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ ก็ต้องมีความอ ดทนที่จะสอนลูก และพูดคุยด้วยเหตุผลกับลูกด้วยความใจเย็นเช่นกัน

4. ไม่เลี้ยงลูกด้วยวัตถุ

คุณพ่อคุณแม่ต้องสอนให้ลูกรู้จักพอเพียง และไม่ต ามใจลูกจนเคยตัว ถ้าสิ่งไหนที่เกินความจำเป็นก็ต้องอธิบายให้ลูกเข้าใจว่าทำไมถึงให้ไม่ได้ เช่น ลูกมีของเล่นที่เหมือนกันอยู่แล้ว หรือ ชุดเก่าที่มียังสวยอยู่เลยลูก ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ ก็ต้องเป็นตัวอ ย่ างที่ดี โดยไม่ใช้เ งิ นฟุ่มเฟือยให้ลูกเห็นด้วยเช่นกัน

5. ไม่ใช้เทคโนโลยีเลี้ยงลูก

การให้ลูกเล่นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ตั้งแต่ยังเล็กนั้น นอ กจากจะไม่ดีต่อพัฒนาการทางส ม อ งแล้ว ยังส่งผลต่อพฤติก ร ร มและอารมณ์ของเ ด็ กด้วย เพราะสื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีความรวดเร็วฉับไว เมื่อเ ด็ กใช้งานบ่อย ๆจะทำให้เ ด็ กติดนิสัยเอาแต่ใจ อย ากได้อะไรก็ต้องได้ ต้องการความรวดเร็ว

ทำให้ไม่รู้จักการรอคอย ใจร้อนและสมาธิสั้น ดังนั้นเ ด็กทารกจนถึงวัย 2 ปีไม่ควรหยิบจับอุปกรณ์ไฮเทคต่าง ๆ ควรให้เริ่มเล่นได้เมื่อเ ด็ กอายุ 3 – 5 ปี และให้เล่นได้วันละไม่เกิน 1 ชั่ วโมง และในวัยที่โตกว่านั้นจนถึงอายุ 18 ปี ควรเล่นแค่วันละ 2 ชั่ วโมง

ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่ สอนให้ลูกรู้จักกับความลำบากบ้ าง ฝึกลูกให้มีความรับผิ ดชอบ และเปิดโอกาสให้เขาเรียนรู้โลกภายนอ กบ้าง ก็เท่ากับเป็นการปลูกฝังให้ลูกรู้จักพื้นฐานความเป็นจริงของชีวิต มีภูมิคุ้มกันที่ดี เมื่อเขาเติบโตขึ้นก็สามารถเรียนรู้และพร้อมรับมือ กับปัญหาที่เกิดขึ้นได้เป็นอ ย่ างดี

ที่มา t r u e p l o o k p a n y a  yindeeyindee