วิ ธีพูดกับลูก พูดอ ย่ างไรให้ลูกเชื่อฟัง ไม่เอาหูทวนลม เ ด็ กบางคนที่พ่อแม่เรียกแล้วไม่กระดิก นั่งเฉยๆ ส่วนหนึ่งมาจากสิ่งที่ตัวเองสนใจอยู่่ตรงหน้า หรือ กำลังมีสมาธิกับสิ่งหนึ่งอยู่
แต่กับเ ด็ กอีกกลุ่มหนึ่งคือ ไม่อย ากคุยหรือไม่อย ากทำในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ พวกเขาก็เลือ กที่จะนิ่งเฉยแทน แล้วมีวิ ธีพูดกับลูกอ ย่ างไรบ้าง เพื่อให้ลูกเป็นเ ด็ กว่านอนสอนง่ายล่ะ
พ่อแม่หล า ยคน มักจะมีปัญหา ในการพูดพร่ำบอ กลูก ลูกก็มีแต่ไม่เคยรับฟังมีแต่ใช้อ ารมณ์ หากเป็นแบบนี้คงไม่ดีแน่ ฉะนั้น วันนี้เราเลยมีวิ ธี จัดการกับอ ารมณ์ของลูก เผื่อว่าพ่อแม่ท่านใด
จะใช้เป็นแนวทางก็ได้ เ พ ร า ะการที่ลูกดื้ อ ลูกซน มันก็มักเกิดจากปัจจัยหล า ยอย่ าง ที่เป็นสิ่งที่หล่อหลอม พฤติก ร ร มของเขา การเลี้ยงดูก็มีส่วน พ่อแม่สามารถปรับเปลี่ยน
พฤติก ร รมของลูกไปในทางที่ดี ได้ด้วยวิ ธีการพูด การสื่อส ารกับลูกในเวลา ที่เขาดื้ อ ซึ่งวิ ธีการสื่อส า ร ด้วยการพูดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก มันสามารถกระทบต่อพฤติก ร ร ม
การรับฟังของลูกได้ดีเลยล่ะ โดยเฉพาะในช่วงวัย 2 – 5 ขวบ เ พ ร า ะเด็ กจะเริ่มมีความคิด ของตัวเองแล้ว แต่ว่ายังสื่อสา รและควบคุมอาร มณ์ได้ไม่ค่อยดี เ พ ร า ะงั้น วันนี้จึงขอเสนอ 7 กลยุทธ์ พูดยังไงให้ลูกเชื่อฟังแม้ลูกกำลังโ มโ หอยู่ ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ จั ดก า รกับอารมณ์ของลูก ได้อ ย่ างถูกวิ ธี
1 พูดให้ลูก เขาได้คิดด้วยตัวเอง
ลองพูดข้ อ ดีข้ อเสี ยให้ลูกได้ลองคิด รวมทั้งคิดถึงผลที่จะต ามมา จากการกระทำที่ทำลงไปนั้น ลูกทำถูกหรือทำผิ ดและการปล่อยให้ลูกได้ลองนั่งคนเดียว อยู่กับตัวเองบ้าง มันจะช่วยให้อารมณ์ของลูก สงบลงได้เยอะเลยล่ะ
2 ใช้คำพูด ในเชิงบวก
เ พ ร า ะพ่อแม่ต้องไม่ใช้คำพูดว่า ไม่ หรือ ห้าม กับลูก และปรับเปลี่ยนการใช้คำพูดต่างๆ ให้เป็นในด้านบวกมากขึ้น เช่น หากเราไม่อย ากให้ลูกวิ่ง แทนที่จะบอ กว่า อ ย่ าวิ่งนะลูก ให้เปลี่ยนเป็น เดินช้าๆ สิลูก แบบนี้มันน่าฟังกว่า
3 ใช้น้ำเสี ยงให้ถูกต้อง ถูกเวลาด้วย
การคุยกับลูกด้วยเ สี ยงที่ดัง ตะโกนกับลูก เขาจะไม่เข้าใจว่า เราต้องการจะสื่ออะไร ซึ่งอาจจะส่งผลให้เขา ไม่ฟังหรือไม่ปฏิบัติต าม ฉะนั้น จึงต้องบอ กให้เขาฟังว่า น้ำเ สี ยงแบบนี้ คืออะไรแม่กำลังโก ร ธอยู่ หรือแค่เตือนเ พ ร า ะเราจะให้เขารับรู้สิ่งที่เราต้องการ ที่อย ากจะสื่อ สิ่งสำคัญเลยคือควรหลี กเลี่ ยง ถ้าเราใช้น้ำเสี ยงที่ดัง ดุลูกบ่อยๆ อาจทำให้เขาติ ดพฤติก ร ร มจนกล า ยเป็นนิสัย ที่ไม่ดีตอนโตได้นะ
4 อ่อนโยนแต่ก็เด็ ดข า ด
พ่อแม่ต้องรู้จัก การเลือ กใช้คำพูดให้ลูกยอมฟัง เรียกอีกอย่ างว่าอ่อนโยน แต่เด็ดข า ดนั่นแหละ ใช้คำพูดไม่สั่งลูกจนเกินไป ในขณะเดียวกัน ก็ยังคงอ่อนโยนไม่ทำให้ลูกหว าดกลั วในคำพูดพ่อแม่
5 ต้องพูดให้เข้าใจง่ายชับใจความ
เ พ ร า ะเด็ กวัยนี้ยังไม่สามารถฟังสิ่งต่างๆ หล า ยๆ อย่ างได้ในเวลาพร้อมๆ กัน และลูกจะจับใจความได้แค่อย่ างเดียว ถ้าฟังสิ่งที่ย าวๆ เด็ กก็จะงง และลืมง่าย ฉะนั้นเมื่อลูกกำลังโมโ ห ให้พูดกับลูกแบบที่มัน กระชับ ไม่บ่น บอ กแค่ว่า เขาทำผิ ดอะไร จากนั้นก็ให้โอกาสเขาได้ลองทบ ทวนกับตัวเองว่าผิ ดจริงไหม ต่อไปก็ค่อยหันหน้าเปิดใจรับฟังปัญหา และจับเข่าคุยกัน
6 เรียกชื่อลูกเสมอ ไม่ว่าจะบอ กให้ลูกทำอะไรก็แล้วแต่
เ พ ร า ะวิ ธีนี้มันจะช่วยดึงดูดความสนใจ ของลูกน้อยให้เขาหัน มาสนใจ และตั้งใจฟัง ในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ กำลังพูดโดยวิ ธีการพูดนั้น คือให้เรียกชื่อลูก และหยุดเรียกจนกว่าลูกจะหัน มามองเราอย่ างตั้งใจ ถึงค่อยอธิบายเหตุผลต่างๆ ให้เขาเข้าใจใน เรื่องที่ทำให้ลูกโก ร ธ หรือโ มโ ห แล้วก็ต้องคุยกับลูกด้วย เหตุผลเป็นหลัก อ ย่ าใช้อ ารมณ์
7 มีทางเลือ กให้ลูก ได้ตัดสินใจบ้าง
เ พ ร า ะถ้าลูกดื้อ แล้วเราอย ากให้ลูกทำต ามที่เราพูด เราก็ควรเสนอทางเลือ ก ให้เขาได้เลือ กเ พ ร า ะลูกจะรู้สึกมีอำน าจในการตัดสินใจบ้าง อ ย่ างเช่น ห นูจะเล่นต่อ 1 หรือ 2 นาทีดีนะ ก่อนจะไปอาบน้ำ พ่อแม่ก็อย่ าลืมว่า ลูกจะโตมาเป็นคนอย่ างไร มันก็เริ่มต้นจากการที่ลูก ถูกเลี้ยงดูมาในครอบครัวนั้นเป็นอ ย่ างไร อย ากให้เขาโตมาเป็นคนดี พ่อแม่อ ย่ างเรา ก็ต้องช่วยสร้างเขาให้เป็นอ ย่ างที่เราหวังเอาไว้ให้ได้นะ
ที่มา parentsone tamnanna th.theasianparent