คนวัย 50 ปีขึ้นไป ทำต าม 6 ข้อนี้ มีความสุขทุกวัน

วันนี้เราจะพาคนวัย 50 ปีขึ้นไป ไปสร้างความสุขที่อยู่รอบตัวของคุณ กัน กับ คนวัย 50 ปีขึ้นไป ทำต าม 6 ข้อนี้ มีความสุขทุกวัน ไปดูกันว่าความสุขอะไรบ้างในชีวิตที่อยู่ใกล้ เพียงแต่คุณยังมองเห็นเท่านั้นเอง

1 ต้องบินออ กจากรังให้เหมือนนก

นกที่นอนอยู่กับรัง เป็นนกที่กำลังกกไข่ เราอายุปูนนี้แล้ว จะเอาไข่ที่ไหน มากก ลูกหลานที่เคยกก ก็พากันบินออ กจากรังไปสร้างรังใหม่กันหมดแล้วไอ้ไข่ที่มีก็ไม่มีโอ กาสฟักเป็นตัวแล้ว รีบบินออ กจากรังเหมือนนก เมื่อยังบินไหวอย่ านั่งจับเจ่า

อยู่กับบ้านตลอ ดวันตลอ ดคืนจนกล า ยเป็นคนติดเก้าอี้ ติดเตียงไป จะบินไปใกล้ ไปไกลขอให้บินออ กไปบ้าง ยิ่งไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศได้ยิ่งดีเลยคนที่ได้ไปเที่ยวไกลๆ จะเป็นคนสดชื่นไม่เหี่ยวเฉา ไม่เหมือนพวกคนชราที่ติดเตียง ไม่นานก็กลับบ้านเก่า

2 ควรทำตัวเหมือนหมากรุก

ที่บอ กว่าควรทำตัวแบบหมากรุก นั่นก็เพราะว่า เวลาจะลุก จะยืน จะเดิน จะนั่ง คิดดีๆ เดินช้าๆ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ เดิน เหมือนการเดินหมากอย่ าพรวดพราดล้มลุกคลุกคลาน ขึ้น มาจะลำบาก ไม่ได้ล้มแค่เราคนเดียว มันล้มทั้งกระดาน เสียกระบวนไปทั้งบ้าน ต้องให้ลูกหลาน มาดูแลอีก

3 ควรนอนเหมือนเมาเห็ด

เมื่ออายุมากแล้วต้องนอนให้พอ หลับให้สนิท อย่ าคิดมากจนนอนไม่หลับ รู้สึกง่วงก็ให้นอน โดยเฉพาะกลางคืน นอนอย่ าให้เกินสี่ทุ่มกลางวันถ้ารู้สึกง่วงให้หาเวลางีบ สักสิบห้านาทีก็ยังดี จะรู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะ เพราะอายุเยอะแล้ว ร่างกายอ่อนล้าง่าย ต้องพักผ่อนเยอะๆ อย่ าไปโหมงานหนักเหมือนหนุ่มสาว

4 หัดออ กกำลังกายให้เป็นนิสัย

เหมือนว่าวันไหนไม่ได้ออ กกำลังกาย ไม่ได้เอาเหงื่อออ ก จะรู้สึกหงุดหงิด ครั่นเนื้อครั่นตัว อะไรทำนองนั้นเลย แล้วเราจะเป็นคนสูงอายุที่สุขภาพแข็งแรง

5 กินอยู่แบบแมวเดิน

นั่นก็คือ กินเหมือนย่องเบา กินช้าๆ ค่อยๆ กิน กินทีละ น้อยๆ กินเบาๆ กินบ่อยได้ แต่ อย่ ากินเยอะ อย่ ากินมูมมามระบบทางเดินอาหารไม่ได้ดีเหมือนแต่ก่อนแล้ว กินแบบมูมมาม จะสำลัก ขึ้นปากขึ้นจมูกเอาได้ง่ายๆ

6 ฝึกอารมณ์ให้เหมือนกิ่งไม้ไหว

ไหวพริ้วไปต ามลมบ้าง นิ่งบ้าง เงียบบ้าง บางครั้งไม่ได้ดั่งใจบ้าง ก็ให้เข้าใจได้ว่า มันเป็นกฏของธรรมช าติ ที่ย่อมเกิด ตั้งอยู่ และดับไปเหมือนเวลากิ่งไม้หั กไม่เห็นมันร้องไห้ฟูมฟาย เสียอ กเสียใจ แต่มันจะรีบงอ กกิ่งใหม่เพื่อฟื้นฟูตัวเองขึ้น มาทดแทนให้เร็วที่สุดเราเองก็

เช่นกัน เมื่อถึงเวลาสูญเสียสิ่งใดก็ต้องเข้าใจมันให้เร็วที่สุด เอาธรรมะที่มีธรรมช าติเป็นแบบอย่ างมาทดแทนความเสียใจ แล้วชีวิตในบั้นปล า ยก็จะมีความสุข ด้วยความเข้าใจธรรมะที่เป็นธรรมช าติ ของความเป็นธรรมดานั่นเอง

ที่มา : 108resources