วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิดการสอนลูกให้รู้จักใช้ชีวิต กับบทความ จงสอนลูกหาปลา ไม่ใช่จับปลาให้ลูกกิน ไปดูกันว่าทำไมพ่อแม่ถึงควรสอนลูกจับปลา หาปลากินเอง
การสร้างครอบครัวที่ดี เป็นพื้นฐานของการมีครอบครัวที่มีความสุข มีความสมบูรณ์แบบ ในแต่ละครอบครัวมีเลี้ยงดูลูกที่แตกต่างกันออ กไป บางครอบครัวหยิบยื่นให้จนลูกไม่รู้จัก ความลำบาก ได้สิ่งของนั้น มาง่ายๆ บางครอบครัวก็มีวิธีการสอนลูกให้รู้จักกับความลำบาก ก่อนที่จะสบาย วัยรุ่นคนหนึ่งขอเงินแม่ไปเที่ยว แม่บอ กว่า ‘ลูกรู้ไหมว่าสมัยแม่อายุเท่าลูก ไม่เคยเที่ยวที่ไหน ต้องทำงานทุกอย่ าง พับถุงกระดาษข า ย ตัดใบตองให้แม่ค้า เงินทองห า ย าก แต่ละบาทแต่ละสต างค์ต้องอาบเหงื่อต่างน้ำ จะไปเที่ยวอย่ างนี้ไม่ได้… ‘เด็กฟังแม่เงียบๆ’
ลูกต้องรู้จักความลำบาก ไม่งั้นอีกหน่อยเกิดตกย ากแล้วจะทำยังไง ขึ้นรถเมล์ก็ไม่เป็น ใช้เงินอย่ างนี้ จะเอาตัวรอ ดได้ยังไง…’ เมื่อแม่เทศน์จบ ก็ควักเงินยื่นให้ลูก นี่ไม่ใช่เรื่องแต่ง พ่อแม่จำนวน มากทำอย่ างนี้ เมื่อลูกขอเงินไปเที่ยว จะเทศน์ลูกหล า ยกัณฑ์ เล่าย้อนไปถึงชีวิตลำบากของตนในวัยเท่ากัน แล้วลงท้ายให้เงินลูกไป! คนหาเช้ากินค่ำ สมัยก่อนไม่มีคำว่า
‘มรดก’ ในพจนานุกรมชีวิต ทุกอย่ างในชีวิตต้องหามาเองด้วยสองมือ ทว่าคนรุ่นนี้เมื่อลืมต าอ้าปากได้และเป็นพ่อแม่ มักจะทำให้ลูกเสียคนโดยไม่ตั้งใจ พ่อแม่จำนวน มากเก็บเงินเก็บทอง ไว้โดยไม่ยอมใช้ บอ กว่า ‘เก็บไว้ให้ลูก’ เหตุผลอาจเพราะ พ่อแม่ไม่อย ากให้ลูกผ่านความลำบากเหมือนตัวเอง การให้ทุกอย่ างแก่ลูกเหมือนสะท้อนสิ่งที่ตัวเองอย ากได้ในวัยเด็ก
แต่มันกลับสร้างนิสัยที่ไม่สู้งานหนักไปโดยปริย าย ไม่มีเงินเป็นปัญหา มีเงินก็เป็นปัญหา! บางครั้งและบ่อยครั้งการมีเงิน มากอาจทำให้เลี้ยงลูกย ากขึ้น เงินก็เหมือนคอเลสเตอรอล น้อยไปก็ไม่ดี มากไปก็อั นตร า ย ในสังคมบู ช าคนร ว ยและการร ว ยทางลัด การอบรมสั่งสอนเด็ก เดี๋ยวนี้ย ากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสิ่งเร้ารอบตัว ทางเดียวที่จะให้เด็กโตขึ้นแล้วยืนด้วยตัวเองได้ คือต้องสอนเรื่องวินัยการใช้เงิน ไม่พอ กพูนด้วยคอเลสเตอรอลแห่งวัตถุนิยมมากเกินไปจนเด็กอ่อนแอ พ่อแม่ต้องมองภาพกว้างและมองให้ออ กว่า หากให้มากเกินไปจะทำให้ลูกอ่อนแอ
หรือไม่ ทำอะไรไม่เป็นเลยหรือเปล่า ความรักย่อมเป็นเรื่องดี แต่ต้องรักให้ถูกวิธีด้วย คนร ว ยที่ฉลาด รู้ว่าการได้เงินเป็นเรื่องง่ายกว่าการสูญเสียเงิน และคนที่ไม่รู้จักหาเงิน มักเสียเงิน ได้ง่ายกว่า คนที่ร ว ยจากสมบัติที่ได้มาง่ายๆ จากมรดกอาจจะข า ดความรู้สึกดีๆ ของการสร้างตัวด้วยมือตัวเอง มีตัวอย่ างจริงไม่น้อย ที่คนร ว ยแบ่งสมบัติครึ่งหนึ่งให้อ ง ค์ ก ร การกุศลและ ที่เหลือให้ลูกหลาน เพื่อให้เด็กเรียนรู้ที่จะยืนด้วยตัวเอง มหาเศรษฐีลำดับต้นๆ ของโลก ว อ ร์เ ร น บั ฟเ ฟ ต ต์ บอ กว่า ลูกๆ ของเขาจะต้องแผ้วถางทางของพวกเขาเอง แน่นอนลูกๆ ของเขา
ก็รู้ว่าเขารอช่วยทุกอย่ าง แต่ก็ต้องลงแรงทำงาน บั ฟ เ ฟ ต ต์เชื่อว่า การให้เงินทองแก่ลูกหลานด้วยจำนวนที่มากพอสบายทั้งชีวิต ‘เพียงเพราะพวกเขาออ กมาจากมดลูกที่ถูกต้อง’ เป็นเรื่อง อั นต ร า ย เพราะการให้อาจทำร้า ยลูก บั ฟเ ฟ ตต์จึงให้มรดกแก่ลูกหลาน ‘มากพอที่พวกเขารู้สึกว่าสามารถทำอะไรก็ได้ แต่ไม่มากพอที่พวกเขาไม่ต้องทำอะไรเลย’ เราต้องสอนเด็กค่านิยม
ชื่นชมบุคคลที่สร้างตนเองจากศูนย์ หาเงินอย่ างสุจริต รู้คุณค่าของการทำงาน การสร้างตัว ไม่กลัวงานหนัก สิ่งที่ควรให้ลูกมากกว่าเงินก็คือความเอาใจใส่ รับรู้กิจก ร ร มที่ลูกทำ เป็นเพื่อนกับลูก นี่อาจเป็นสิ่งที่มีค่ากว่าการให้เงินอย่ างเดียว และต ามสุภาษิตจีนที่ว่า ‘สอนลูกจับปลา ไม่ใช่จับปลาให้ลูก’
ที่มา p o s t s o d . c o m, f a h h s a i