บางทีการใช้ชีวิต มันก็ไม่มีอะไรมากหรอ กนะ เพียงแค่เราพย าย ามทำให้ ความสุข มันอยู่เหนือ ความทุ ก ข์ แค่นั้นก็เพียงพอแล้วล่ะ ต่อให้เราจะทุ ก ข์มากแค่ไหน เราก็ต้องเติมเต็ม ความสุขเข้ามาในชีวิตของเราด้วย
อ ย่ าให้ความทุ ก ข์มัน มีมากกว่าความสุขเด็ดข า ด ไม่อ ย่ างนั้นเราจะไม่มีความสุขในชีวิตเลย ลองมองและคิดให้ดีๆว่าอะไรที่ทำให้เรามีความสุข เราก็แค่โฟกัสและทำสิ่งๆนั้นให้ดีที่สุด
ทีนี้ต่อให้เราจะต้องเจอเรื่องที่ทำให้เราทุ ก ข์มากแค่ไหน เราก็จะมีความสุขมากกว่าความทุ ก ข์อยู่ดี นั่นแหละคือเหตุผลและความสำคัญของการใช้ชีวิต คือหาความสุขให้มาก เพื่อเอามาชดเชยความทุ ก ข์ในชีวิตของเรา
เราทุกคน มีชีวิตและมีต้นทุนชีวิตที่ต่างกันออ กไป เราเลือ กที่จะกำหนดชีวิตของเราได้ เราสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองได้ต ามที่ใจเราต้องการ ชีวิตคนเรา ก็มีทั้งสุขและทุ กข์ปะปนกันไป เป็นสีสันชีวิต
ไม่มีใครที่จะมีสุขเพียงอ ย่ างเดียวและไม่มีใครที่จะมีทุ กข์เพียงอ ย่ างเดียว แต่เมื่อเราเป็นทุ กข์เราควรรู้ว่า เมื่อทุ กข์กับสิ่งใด ก็ขอให้ตัวเรานั้นเดินออ กมาจากสิ่งนั้น แต่เมื่อเดินออ กมาไม่ได้ ก็จงอยู่ตรงนั้นให้เป็น
คำพูดที่ว่า สิ่งไหนที่ทำให้ทุ กข์ ก็ให้เราเดินออ กจากสิ่งนั้น หากทำไม่ได้ก็ต้องอยู่ให้เป็น เมื่อเรามีความทุ กข์ ก็จงแก้ที่ตัวเราก่อน และการแก้ หมายถึง แก้ที่ความคิดเรา เพราะหล า ยๆ คน มีความทุ กข์จากความคิดของตน
คิดซ้ำ คิดย้ำ และคิดเยอะ วนเวียนกับความทุ กข์แบบไม่จบสิ้น แบกอ ดีตแบกเรื่องราว ที่เกิดขึ้น มาหรือที่ผ่าน มาแล้ว แต่เราไม่สามารถย้อนเวลาแก้ไขอะไรต่อมิอะไรได้ สิ่งที่เราแบก คือความทุ กข์ ความเ จ็ บป ว ด ความเศร้ า
มันจะวนเวียนอยู่เช่นนี้ ไม่จางไปไหนเลย เมื่อรู้เช่นนี้แล้วจงแก้ที่ใจ ทุ กข์เกิดขึ้นจากตรงไหน จงแก้จากตรงนั้น ใจเรามันทุ กข์ ก็ให้แก้ที่ใจเราก่อน ทุ กข์ให้รู้ว่าทุ กข์ เ จ็ บให้รู้ว่าเ จ็ บ
ผ่านลมห า ยใจเข้าออ ก เพลงลงไปในอารมณ์ที่จะเกิดขึ้น จนกว่าความรู้สึกนั้นจะดับลง มีสมาธิมีสติ ผ่านการฝึกสมาธิ เมื่อมีสมาธิก็จะมีสติ ปัญญาก็เกิด ทุกอ ย่ างจะผ่านพ้นไปแล้วกลับมาใหม่ วนเวียนอยู่แบบนี้เรื่อยไป นี่แหละที่เขาเรียกว่าชีวิต แบบนี้แหละที่เรียกว่ามนุษย์ หากเรารู้เท่าทันความทุ กข์ เราก็จะ ปล่อยวาง ปลง อภั ย เท่านี้เอง
ที่มา san-sabai bohatto