คุณค่าของชีวิต เขาวัดกันที่ความรับผิ ดชอบ

ในช่วงเวลาที่เงียบที่สุด เคยมีคำถามเหล่านี้ ผุดขึ้น มาในหูบ้างไหม ว่าชีวิตคืออะไร เราเกิดมาทำไม เป็นคำถามที่ดูเหมือนง่ายที่สุด ใกล้ตัวที่สุด แต่กลับหาคำตอบย ากที่สุด เรามุ่งมั่นทำงาน เราเพียรสร้างความมั่นคงในชีวิต หล า ยคนออ กเดินทางสุดขอบโลกต ามหา คุณค่าของตัวเอง โดยที่ไม่รู้เลยว่า แท้จริงแล้ว คุณค่าที่เราต ามหา อยู่ใกล้แค่ในบ้านเรา บางทีชีวิตคืออะไร อาจจะไม่สำคัญเท่ากับ ชีวิตนี้เราทำเพื่อใคร

โตขึ้นน้องจะรู้ว่า ย ากยิ่งกว่าหาสามี ดีๆ คือหาทำเลค้าขา ยดีๆ ย ากยิ่งกว่าสอบเข้ามหาวิทย าลัยดีๆ คือ การมีอาชีพการงานดีๆ โตขึ้นน้องจะอึ้งว่า พ่อแม่เราเอาเงิ นที่ไหน มาเลี้ยงเรา ขนาดเราเงิ นเดือน 3 หมื่น ยังไม่พอจะให้พ่อแม่ได้เลย โตขึ้นน้องจะเข้าใจว่า โซดาขวดละ 100 ในผับ

ที่น้องไปแพงขนาดไหน น้องจะเริ่มสงสัยว่า แม่คนเดียว ทำไมเลี้ยงลูก 3-4 คนได้ จนเรียนจบ แต่ลูก 3-4 คนเรียนจบ มีงานทำหมด แต่ไม่มีใครเลี้ยงดูแม่ได้สักคนเดียว โตขึ้นน้องจะเข้าใจว่า ทำไมแม่ต้องทำงานหนัก วันหยุดไม่ได้พัก ค่ำมืดยังไม่ได้กินข้าว

น้องจะรู้ว่าเขาทำเพื่อใคร วันนึงน้องจะคิดได้ว่า ชีวิตในรั้วมหาวิทย าลัย เป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขที่สุดแล้ว เพราะมีคนหาเ งินให้ใช้เรียนไป เที่ยวไป ไม่ต้องคิดอะไร วันนึงน้องจะรู้ว่า คุณค่าของชีวิต ไม่ได้วัดกันที่โทรศัพท์เครื่องใหม่ หรือ กระเป๋าแบรนด์เนม แต่มันวัดกันที่ความรับผิ ดชอบ และสามัญสำนึก

วันนึงน้องจะรู้ว่า คนที่ร่ำร ว ยที่แท้จริงคือคนที่เลี้ยงดูพ่อแม่ได้ ไม่ใช่คนที่สามารถ จ่ายค่าเหล้ าขวดละ 5 พันโดยไม่เ สี ยดาย วันที่พ่อแม่ต า ยวันนั้นแหละ คือวันที่โลกนี้ไม่มีใครรักน้องจริง หลงเหลืออยู่อีกแล้ว เมื่อก่อนร้องเรียกหาแต่ผัวในโซเชี่ยล วันนึงน้องจะเรียกร้อง หาแต่พ่อแม่ที่ไม่มีวันหวนกลับคืน มาได้ แม่ข ายแกงได้วันละไม่ถึงพัน เลี้ยงลูกจนเรียนจบมีงานทำมาได้ ลูกเงิ นเดือน 2-3 หมื่นกลับเลี้ยงดูแม่ไม่ได้ วันนี้บทความนี้ น้องอ่า นแล้วอาจจะไม่เข้าใจสักวันที่คิดได้จะเข้าใจมันดี

ที่มา songtorkwamrak marketeeronline  stand-smiling