อ ย่ างที่เราได้เห็นกันว่า บ้านเรานั้น มีการพัฒนาในเรื่องของการนำเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่การทำงานกัน มาก ทำให้หล า ยๆคนนั้นอยู่ย ากขึ้น
หล า ยๆคนตกงานเพราะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ฉนั้นเราจะทำอ ย่ างไรเพื่อให้ตัวเองนั้นอยู่รอ ดในยุคที่มีสิ่งทันสมัยเข้ามาแบบนี้ ถ้าอย ากรู้เราไปดูกันเลย
1 ฝึกทำอะไรให้ได้มากกว่าหนึ่ง อ ย่ า ง
เป็นปกติขององค์กร ที่ในใจลึกๆ เขาก็อ ย า ก ให้บุคลากร ทำงานได้มากกว่า 1 อ ย่ า งต้องไม่ลืมว่านี่คือ การทำธุรกิจ
ที่แต่ละองค์กร ต่างก็ต้องแสวงหาผลกำไร การจ้างงานคน ก็ย่อมต้องการผู้ที่จ้าง แล้วคุ้มที่สุดนั่นเเปลว่า บุคลากรที่เ งิ นเดือน
ค่อนข้างสูงบริษัทอาจ คาดหวังว่าควรจะทำอะไร ได้มากกว่าหน้าที่ประจำ อ ย่ า ง น้อย ก็เพิ่มมาอีกสักอ ย่ า ง สองอ ย่ า ง จะได้ไม่ต้องจ้าง บุคลากรเพิ่ม เพื่อล ดต้นทุ น เพราะการที่บริษัทต่าง ๆ นำ AI มาใช้ กับธุรกิจก็เพื่อ ล ดกำลังคนเนื่องจาก AI เป็นเทคโนโลยีที่ลงทุ น
แค่ครั้งเดียวแต่สามารถใช้งานได้หล า ยปี AI และไม่มีปากมีเ สี ยง ในขณะที่แ ร งงาน คนต้องจ่ายค่าจ้างทุกเดือน ทั้งประสิทธิภาพการทำงาน ของคนก็ขึ้นๆลงๆ ไม่แน่นอน
ต ามสภาวะ จิตใจและสภาพแวดล้อม ทั้งยังจะมีปัญหา กับการทำงานร่วม กับผู้อื่นนั่นหมายความว่า AI สามารถทำงานได้คุ้มทุ น และรั ก ษ ามาตรฐาน การทำงานได้ดีกว่าแ ร งงานคน
2 เรียนรู้ที่จะทำงานกับ AI
เมื่อประเมิน ความสามารถของ ตนเองแล้วพบว่าตัวเอง ยังเอาตัวรอ ด ในยุคที่ AI ครองเมือง ได้อยู่จะดีกว่าไหม ถ้าเราจะ พ ย า ย า ม ขึ้นอีกนิด เพื่อให้ทำงานร่วมกับ AI ได้ อ ย่ า งสงบสุข พูดง่ายก็คือ ไหน ๆ ก็คงห้ามบริษัทไม่ให้เอา AI มาทำงานไม่ได้
ก็ใช้ประโยชน์จาก AI เ สี ยเลยจาก การศึกษาของ Carl Benedikt Frey และ Michael A. Osborne นักวิจัยจาก ม ห า วิ ท ย า ลั ย ออ กซฟอร์ดกล่าวว่า ข้อจำกัดของ AI ที่ ยังทำงานแทนคนใน ระยะเวลาอันใกล้นี้ไม่ได้
คือ งานที่ใช้ความละเอียด ทางประสาท และการมองเห็นงานที่ใช้ ความสร้างสรรค์ ความประณีตและงานที่ใช้ ความฉลาดทางสังคม ในเมื่อเรารู้แล้วว่า AI ทำอะไร ได้ไม่ได้ก็ใช้ความสามารถ ของตนเองไป เติมเต็มจุดด้อยของมันซะ อ ย่ า งน้อย ๆ เราก็ยังพอ ทำงานเป็นคู่หูกับ AI ได้
3 ฝึกใช้ความคิดให้มาก ๆ
อ ย่ า งที่บอ กว่าข้อได้ เปรียบที่มนุษย์มีเหนือ กว่า AI คือ การทำงาน ที่ต้องใช้ความละเอียด ทางประสาทและการมองเห็น งานที่ใช้ความสร้างสรรค์ และงานที่ใช้ความฉลาด ทางสังคม ถึง AI จะฉลาดมาก แต่ AI ไม่มีอารมณ์ ความรู้สึกมันทำงาน ต ามคำสั่งที่เราป้อนเข้าไป ดังนั้นงานอะไรก็ต าม
ที่ยังต้องใช้ อารมณ์ความรู้สึก ใช้ความละเอียดรอบคอบ ใช้ส ม อ ง สร้างสรรค์ อ ย่ า งซับซ้อนงาน ที่มีประสิทธิภาพสูง ๆ หรือ การแก้ไขปัญหาแปลก ๆ ยังมีแค่มนุษย์ที่ ศักยภาพสูง ทำได้คนกลุ่มนี้จึง มีโอกาสที่จะไปต่อได้อีกนาน พอสมควร เพราะ AIยังทำหน้าที่วิเคราะห์ได้อ ย่ า งละเอียดลึกซึ้งแทนคน ไม่ได้ในอนาคตอันใกล้นี้
4 เตรียมตัวรับมือ
เป็นความคิดที่พื้นฐาน ที่สุดแล้วเพราะทุก วันนี้ AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัว หรือเรื่องที่จะรู้เฉพาะ คนที่มีการศึกษาสูงๆ อีกต่อไปเนื่องจาก คนกลุ่มแรก ๆ ที่จะถูก AI เเย่งงาน คือแ ร งงานฝ่ายผลิต ในอุ ต ส า ห ก ร ร ม ต่างๆ แม้จะฟังดูสิ้นหวังแต่ เราต้องไม่หมดหวัง
ในเมื่อเราก็พอจะรู้แล้วว่าAI ฉลาดมากแค่ไหน และในอนาคต จะต้องฉลาดขึ้นอีกแน่นอน ถ้าประเมินรอบ ด้านแล้วรู้ว่ายังไง ก็สู้เทคโนโลยีตัวAI ไม่ได้คงต้อง มองหาลู่ทางใหม่ หรือเตรียมแผนสำรอง ไว้ว่าถ้าวันใดเกิดตกงาน ขึ้น มากะทันหัน จะทำ อ ย่ า ง ไรซึ่งตอนนี้ ยังพอมีเวลาให้คิดวางแผน จะได้ไม่จวนตัวนัก
5 พัฒนาทักษะและความสามารถ
ถึง AI จะฉลาด แต่ AI ก็เกิดขึ้น มาเพราะสติปัญญาของคน ฉะนั้นยังไม่สายที่จะ พัฒนาตัวเองถึงจะฉลาดเท่า หรือมากกว่าไม่ได้ เพราะเป็นไปได้ ย า ก แต่ก็ยังจะมีประโยชน์ ต่อองค์กรมากกว่า คนที่ไม่คิดจ ะปรับตัวอะไรเลย ตัว อ ย่ า ง ที่เราเห็นได้ชัดในปีนี้
ก็คือตลาดแ ร งงานได้รับผล กระทบค่อนข้างมาก ทั้งผลพวงจากโ ร ค ร ะ บ า ด ที่หล า ยคนต้อง พักการทำงานแต่ขณะ เดียวกันเทคโนโลยี ก็ไม่ได้หยุดพัฒนา และพร้อมที่จะขึ้น มา มีบทบาทแทน มนุษย์ ในอนาคตอันใกล้อีกทั้ง การแข่งขันระหว่าง ธุรกิจในปัจจุบัน
ก็ค่อนข้างสูง เพราะต่างก็ต้องพยุง ให้ธุรกิจตัวเองอยู่รอ ด การล ดต้นทุ นเป็น สิ่งแรกที่องค์กรจะทำ ทำให้บุคลากรที่มีทักษะ ไม่ตรงกับความต้องการ ของตลาดก็เสี่ยง ตกงานสูงจึงจำเป็น ที่เราควรจะพัฒนา ทักษะความสามารถ ของตนเอง
อ ย่ า ง น้อยก็ควรจะ พัฒนาในสิ่งที่ตนเองชอบ หรือถนัดให้ได้บ้าง เช่น ทักษะทางภาษาที่ 2 ที่ 3 ทักษะทางเทคโนโลยี จะได้ใช้ประโยชน์ และอยู่ร่วมกับ AI ได้ ทักษะใน การทำงานร่วมกับผู้อื่น เพราะ AI ไม่มีสังคมเหมือน มนุษย์ ทักษะในการคิดวิเคราะห์ การรับมือปัญหาที่ซับซ้อน เป็นต้น
ที่มา sabuyjaijung